บทบาทของวิศวกรที่ปรึกษา (Engineering Consultant) กับผลกระทบต่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (เคลม)

บทบาทของวิศวกรที่ปรึกษา (Engineering Consultant) กับผลกระทบต่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (เคลม)

บทบาทของวิศวกรที่ปรึกษา (Engineering Consultant) กับผลกระทบต่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (เคลม)

การออกแบบการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง หรืออาคารสถานที่ต่างๆ ย่อมต้องอาศัยผู้ออกแบบการก่อสร้างและวิศวกรที่ปรึกษาด้วย เพราะวิศวกรที่ปรึกษาถือเป็นที่ปรึกษาตลอดการก่อสร้างที่สำคัญ ที่ส่งผลให้การดำเนินการก่อสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และปลอดภัย ทั้งยังเปรียบเสมือนที่ปรึกษาที่เป็นกูรูสำหรับการก่อสร้างนั้นๆ เพราะการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างแต่ละครั้ง ย่อมต้องใช้ระยะเวลาและการดำเนินการที่หลากหลายขั้นตอน ดังนั้นวิศวกรที่ปรึกษาจึงเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญกับทุกการก่อสร้าง

บทบาทของวิศวกรที่ปรึกษาที่ส่งผลต่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าวิศวกรที่ปรึกษาถือเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อทุกการก่อสร้าง ดังนั้นจึงเป็นตำแหน่งหนึ่งที่มีผลต่อการทำประกันภัยการก่อสร้าง เพราะหากวิศวกรที่ปรึกษาไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากพอ ก็จะทำให้เข้าข้อยกเว้นความรับผิดของเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยด้วย

บทบาทของวิศวกรที่ปรึกษาที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน มีดังนี้

หากวิศวกรที่ปรึกษาไม่มีความรู้ความสามารถหรือความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างนั้นๆ จนนำไปสู่การก่อสร้างที่ผิดแบบ หรือไม่ได้มาตรฐาน ก็จะทำให้ผู้รับเหมาหรือเจ้าของโครงการกลายเป็นผู้ที่ต้องรับผิดจากความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่สืบเนื่องจากการก่อสร้างนั้นๆ ซึ่งปัจจัยนี้ถือเป็นข้อหนึ่งที่เข้าข้อยกเว้นของความรับผิดในการทำประกันก่อสร้าง ดังนั้นบริษัทผู้รับประกันภัยก่อสร้างจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายนอกหรือบุคคลภายใน รวมทั้งความเสียหายที่เกิดกับอาคารสถานที่หรืออุปกรณ์การก่อสร้างที่เป็นเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นการเข้าข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัย ผู้เอาประกันภัยจึงต้องชำระค่าสินไหมทดแทนเอง

หากวิศวกรที่ปรึกษาทุจริตหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกับอาคารสถานที่ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการให้คำปรึกษาของวิศวกรที่ปรึกษานั้น ก็จะเข้าข้อยกเว้นตามเงื่อนไขที่จำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยด้วยเช่นกัน เพราะความทุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของวิศวกรที่ปรึกษา ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่เกิดจากความผิดส่วนหนึ่งของผู้เอาประกันภัยเอง จนทำให้มีความเสียหายเกิดขึ้น ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจึงไม่สามารถเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก หรือทรัพย์สินที่เกิดความเสียหายได้ ทำให้ผู้เอาประกันภัยก่อสร้างต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเอง

อีกทั้งหากวิศวกรที่ปรึกษามีความประมาทเลินเล่อหรือทุจริตจนก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น ที่มีผลต่อการเสียชีวิตหรือด้านร่างกาย ย่อมตกเป็นผู้ต้องรับผิดตามกฎหมายด้วย ดังนั้นการเลือกวิศวกรที่ปรึกษาของโครงการก่อสร้างต่างๆ จึงต้องให้ความสำคัญในการเฟ้นหาวิศวกรที่ปรึกษาที่ดี และมีประสิทธิภาพที่ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องด้วย

Leave a Comment