
ความเข้าใจที่ว่าบริษัทที่เป็นกิจการของครอบครัวหรือบริษัทเอกชน ไม่จำเป็นต้องมีประกันภัยความรับผิดของกรรมการและผู้บริหาร (Directors and Officers Liability Insurance – D&O) นั้น เป็นความเข้าใจที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใด หรือจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ก็ตาม ความเสี่ยงที่กรรมการและผู้บริหารจะต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวนั้นมีอยู่จริงและสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่มีความเสี่ยงเฉพาะตัวสูงอย่างโรงงานอุตสาหกรรม
เหตุผลสำคัญที่ทำให้มุมมองดังกล่าวเป็นอันตราย คือการที่ผู้ประกอบการอาจมองข้ามบทบาทในฐานะ “กรรมการบริษัท” ซึ่งมีภาระหน้าที่ทางกฎหมายที่ซับซ้อน ไม่ต่างจากกรรมการบริษัทมหาชน กฎหมายไทยไม่ได้จำแนกความรับผิดของกรรมการตามประเภทของบริษัท แต่เน้นที่การปฏิบัติหน้าที่ตามหลักความระมัดระวัง (Duty of Care) และความซื่อสัตย์สุจริต (Duty of Loyalty) หากมีการกระทำผิดพลาด ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ ก็อาจนำไปสู่ความรับผิดชอบส่วนบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นการถูกฟ้องร้องจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย, ลูกจ้าง, คู่ค้า, หรือหน่วยงานภาครัฐ
สำหรับโรงงานที่มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันย่อมมีสูงกว่าธุรกิจบริการทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุในโรงงาน, การรั่วไหลของสารเคมี, ปัญหาคุณภาพสินค้า, หรือการตัดสินใจลงทุนผิดพลาด ความเสียหายเหล่านี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่งบการเงินของบริษัท แต่สามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อทรัพย์สินส่วนตัวของกรรมการและผู้บริหารได้ หากพิสูจน์ได้ว่าการตัดสินใจหรือการละเลยการปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นต้นเหตุของปัญหา
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถพิจารณาจาก 3 กรณีศึกษาที่จำลองจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทเอกชนก็มีความเสี่ยงที่กรรมการต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวเช่นกัน:
กรณีศึกษาที่ 1: หายนะจากสารเคมีรั่วไหล – โรงงานยางพารา โรงงานผลิตยางพาราแห่งหนึ่งซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว ได้ตัดสินใจลดงบประมาณการซ่อมบำรุงระบบบำบัดน้ำเสียลงเพื่อประหยัดต้นทุน โดยที่กรรมการบริษัทได้รับทราบแต่ไม่ได้ทักท้วงอย่างจริงจัง จนกระทั่งวันหนึ่ง ท่อส่งสารเคมีเก่าเกิดการรั่วไหล ทำให้สารเคมีปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ หน่วยงานภาครัฐเข้าตรวจสอบและพบว่าโรงงานมีการบำรุงรักษาระบบที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ผู้บริหารที่รับผิดชอบโดยตรงถูกดำเนินคดีอาญา และที่สำคัญคือ กรรมการบริษัททุกคนถูกฟ้องร้องจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงถูกภาครัฐปรับเป็นเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งเกินกว่าความสามารถในการชดเชยของบริษัท กรรมการบางรายต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อชดเชยค่าเสียหาย และบางรายถึงกับต้องถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่
กรณีศึกษาที่ 2: อุบัติเหตุในสายการผลิต – โรงงานไม้แปรรูป โรงงานไม้แปรรูปขนาดกลางแห่งหนึ่งได้มีการปรับปรุงสายการผลิต แต่ด้วยความเร่งรีบและต้องการลดค่าใช้จ่าย จึงไม่ได้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องจักรอย่างละเอียดตามมาตรฐาน มีการละเลยการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันบางอย่าง จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น เครื่องจักรหนีบพนักงานได้รับบาดเจ็บสาหัสและพิการถาวร การสอบสวนพบว่ากรรมการบริษัทรับทราบถึงรายงานความเสี่ยงด้านความปลอดภัยนี้ แต่ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ครอบครัวพนักงานที่บาดเจ็บฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ไม่เพียงแค่บริษัทต้องชดใช้ค่าเสียหายมหาศาล แต่กรรมการผู้มีอำนาจตัดสินใจโดยตรงก็ถูกฟ้องร้องในฐานะผู้ประมาทเลินเล่อ ทำให้บางรายต้องเผชิญกับโทษจำคุกและค่าปรับส่วนตัวที่นำไปสู่การล้มละลาย
กรณีศึกษาที่ 3: การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ผิดพลาด – โรงงานพลาสติก โรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ในการขยายกำลังการผลิต แต่ด้วยการวิเคราะห์ตลาดและคาดการณ์ความต้องการที่ผิดพลาด ประกอบกับการบริหารสภาพคล่องทางการเงินที่ไม่รอบคอบ ทำให้บริษัทประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงเมื่อคำสั่งซื้อไม่เป็นไปตามคาด จนบริษัทเข้าสู่ภาวะล้มละลาย เจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นรายย่อยยื่นฟ้องกรรมการบริษัทฐานประมาทเลินเล่อในการบริหารงานและทำให้บริษัทเสียหาย กรรมการบางรายซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารหลักต้องนำทรัพย์สินส่วนตัวมาค้ำประกันหนี้และชดเชยความเสียหาย
จากทั้งสามกรณีศึกษา ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการที่บริษัทเป็น “บริษัทส่วนตัว” หรือ “กิจการของครอบครัว” ไม่ได้เป็นเกราะป้องกันความรับผิดส่วนบุคคลของกรรมการและผู้บริหารแต่อย่างใด ความเสี่ยงเหล่านี้มีอยู่จริงในทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความเสี่ยงเฉพาะด้านสูง ประกันภัย D&O จึงไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปกป้องอนาคตทางการเงินและอิสรภาพของกรรมการและผู้บริหารจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารที่ต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงและการประกันภัยที่เหมาะสมกับธุรกิจโดยเฉพาะ สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง เพียงเพิ่มเพื่อนทาง LINE: @siamadvicefirm