บทบาทของผู้สำรวจภัย (Loss Adjuster) และแนวทางการจัดการเรียกร้องสินไหมอย่างมืออาชีพ

บทบาทของผู้สำรวจภัย (Loss Adjuster) และแนวทางการจัดการเรียกร้องสินไหมอย่างมืออาชีพ

ในกระบวนการบริหารความเสี่ยงของโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงอย่างโรงงานพลาสติก, ยาง, ไม้, หรือกระดาษ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น สิ่งที่ตามมาคือการเรียกร้องสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเผชิญหน้ากับ “ผู้สำรวจภัย” หรือ Loss Adjuster

ประเด็นสำคัญที่ควรทำความเข้าใจคือ ผู้สำรวจภัยไม่ใช่ตัวแทนของผู้เอาประกันภัย ความเข้าใจผิดที่ว่าผู้สำรวจภัยคือผู้ที่จะมาช่วยประเมินความเสียหายอย่างเป็นกลางและมุ่งมั่นที่จะให้ผู้เอาประกันได้รับค่าสินไหมสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และอาจนำมาซึ่งการสูญเสียผลประโยชน์ที่พึงได้รับ

เหตุใดจึงต้องเข้าใจบทบาทของผู้สำรวจภัย

หน้าที่หลักของผู้สำรวจภัยคือการประเมินความเสียหายตามที่เกิดขึ้นจริง และที่สำคัญกว่านั้นคือ การประเมินภายใต้เงื่อนไขและความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุไว้ พวกเขาถูกว่าจ้างโดยบริษัทประกันภัย เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมภายใต้มุมมองและผลประโยชน์ของบริษัทประกันภัย

ผู้สำรวจภัยจะลงพื้นที่, ตรวจสอบทรัพย์สินที่เสียหาย, รวบรวมเอกสาร, และวิเคราะห์ว่าความเสียหายนั้นอยู่ในขอบเขตความคุ้มครองหรือไม่ และมีข้อยกเว้นใดๆ ในกรมธรรม์ที่อาจส่งผลให้ไม่ได้รับการคุ้มครองหรือไม่ พวกเขาจะพิจารณาทุกแง่มุมที่อาจลดภาระการจ่ายสินไหมของบริษัทประกันภัย ซึ่งเป็นไปตามกลไกและเงื่อนไขทางธุรกิจ

กรณีศึกษา: ช่องว่างจากการประเมิน

โรงงานไม้แห่งหนึ่งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ เจ้าของโรงงานเชื่อใจผู้สำรวจภัยอย่างเต็มที่และให้ข้อมูลทั้งหมดโดยไม่มีการเตรียมพร้อม ผลที่ได้คือผู้สำรวจภัยได้พบช่องโหว่บางประการเกี่ยวกับระบบป้องกันอัคคีภัยที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ตกลงกันไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์ ส่งผลให้โรงงานได้รับค่าสินไหมน้อยกว่าที่ควรจะเป็นถึง 30%

อีกกรณีหนึ่ง โรงงานพลาสติกที่เครื่องจักรสำคัญเกิดการชำรุดเสียหายหนัก ผู้สำรวจภัยได้เสนอค่าสินไหมที่ครอบคลุมเฉพาะค่าซ่อมแซมเครื่องจักรเท่านั้น แต่ไม่ได้ครอบคลุม “การขาดผลกำไร” หรือ Business Interruption ที่เกิดจากการหยุดเดินเครื่องจักรเป็นระยะเวลานาน ทั้งๆ ที่มีการซื้อความคุ้มครองส่วนนี้ไว้ แต่ด้วยความที่ผู้บริหารไม่ได้นำเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วนตามหลักการ การเรียกร้องในส่วนนี้จึงถูกละเลยไป

แนวทางการรับมืออย่างมืออาชีพเพื่อปกป้องสิทธิ์

การรับมือกับผู้สำรวจภัยต้องทำอย่างมืออาชีพ โดยเข้าใจว่าพวกเขาทำหน้าที่เพื่อบริษัทประกันภัย คำแนะนำที่ควรยึดถือมีดังนี้:

  1. ทำความเข้าใจกรมธรรม์อย่างถ่องแท้: ก่อนเกิดเหตุหรือทันทีที่เกิดเหตุ สิ่งแรกที่ต้องทำคือทบทวนกรมธรรม์ประกันภัยอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจขอบเขตความคุ้มครอง, ข้อยกเว้น, และเงื่อนไขต่างๆ
  2. รวบรวมหลักฐานอย่างครบถ้วนและเป็นระบบ: ภาพถ่าย, วิดีโอ, เอกสารการซื้อขาย, ใบเสนอราคา, แผนผังโรงงาน, และรายงานการบำรุงรักษา ต้องจัดเตรียมให้พร้อมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลักฐานที่ชัดเจนจะช่วยสนับสนุนการเรียกร้องสินไหมได้อย่างมีน้ำหนัก
  3. มีผู้เชี่ยวชาญอยู่เคียงข้าง: การมีที่ปรึกษาประกันภัยอิสระ หรือ Loss Assessor ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้เอาประกันโดยเฉพาะ จะช่วยให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการเจรจาต่อรองกับผู้สำรวจภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. สื่อสารอย่างรัดกุมและเป็นลายลักษณ์อักษร: การสื่อสารทั้งหมดกับผู้สำรวจภัยควรทำอย่างระมัดระวัง, เป็นทางการ, และควรมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือไม่แน่ใจ
  5. อย่าเพิ่งดำเนินการซ่อมแซมหรือรื้อถอนจนกว่าจะได้รับอนุญาต: การเปลี่ยนแปลงสภาพความเสียหายก่อนที่ผู้สำรวจภัยจะได้ตรวจสอบ อาจทำให้เกิดปัญหาในการประเมินความเสียหายได้ ควรได้รับอนุญาตจากบริษัทประกันภัยก่อนเสมอ

สรุปแล้ว การรับมือกับผู้สำรวจภัยไม่ใช่เรื่องของความเป็นมิตร แต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการและการปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจให้สูงสุด การเตรียมพร้อม, การทำความเข้าใจ, และการมีผู้เชี่ยวชาญอยู่เคียงข้าง จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับค่าสินไหมทดแทนที่เป็นธรรมและเพียงพอต่อการฟื้นฟูธุรกิจ

สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารที่ต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงและการประกันภัยที่เหมาะสมกับธุรกิจโดยเฉพาะ สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง เพียงเพิ่มเพื่อนทาง LINE: @siamadvicefirm

Leave a Comment