ความแตกต่างระหว่างประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (BI) และแบบต่อเนื่อง (CBI): การบริหารความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทาน

สำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานพลาสติก, ยาง, ไม้, และกระดาษ การทำความเข้าใจเพียงแค่ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption – BI) อาจไม่เพียงพอต่อการปกป้องธุรกิจในยุคปัจจุบัน คุณภาพและความเป็นมืออาชีพของโบรคเกอร์ประกันภัยจะถูกชี้วัดได้อย่างชัดเจนจากความเข้าใจในความแตกต่างระหว่าง BI และ “Contangible Business Interruption (CBI)” ซึ่งเป็นมุมมองเชิงลึกที่สะท้อนถึงประสบการณ์ในการมองเห็นความเสี่ยงที่ซับซ้อน

โลกของธุรกิจอุตสาหกรรมในวันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเสี่ยงภายในรั้วโรงงานอีกต่อไป ทุกองค์ประกอบในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ล้วนเชื่อมโยงถึงกันอย่างแยกไม่ออก ประกันภัย BI ที่คุ้นเคยนั้น มุ่งเน้นไปที่ความเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของตนเอง เช่น โรงงานไฟไหม้ หรือเครื่องจักรเสียหาย จนทำให้ไม่สามารถผลิตได้ตามปกติ ประกันประเภทนี้จะเข้ามาช่วยชดเชยเพื่อให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัวและกลับมาดำเนินการได้เร็วที่สุด

แต่ในสถานการณ์ที่โรงงานยังคงปกติ แต่กลับต้องหยุดการผลิตเพราะวัตถุดิบสำคัญขาดแคลนจากโรงงานซัพพลายเออร์ที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ หรือลูกค้าหลักไม่สามารถรับสินค้าได้เพราะถูกน้ำท่วมใหญ่ ประกันภัย BI แบบธรรมดาจะไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้ และนี่คือที่มาของความจำเป็นในการทำความเข้าใจ “ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักต่อเนื่อง” หรือ “Contingent Business Interruption (CBI)”

CBI คือส่วนขยายความคุ้มครองที่ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยจะให้ความคุ้มครองการสูญเสียผลกำไรและค่าใช้จ่ายคงที่ที่เกิดขึ้นจากการที่ธุรกิจหยุดชะงัก เนื่องจากความเสียหายทางกายภาพที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของ “บุคคลภายนอก” ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจด้วย เช่น:

  • ซัพพลายเออร์หลัก (Suppliers): หากโรงงานผู้ผลิตวัตถุดิบสำคัญเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจนไม่สามารถส่งมอบวัตถุดิบได้
  • ลูกค้าหลัก (Customers): หากลูกค้าคนสำคัญไม่สามารถรับสินค้าได้ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของพวกเขาต้องหยุดชะงักจากภัยต่างๆ
  • ผู้ให้บริการสาธารณูปโภค (Utilities): การหยุดชะงักของไฟฟ้า, น้ำประปา, หรือแก๊สที่มาจากผู้ให้บริการภายนอกโรงงาน

ความแตกต่างนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนและพึ่งพาซัพพลายเออร์เฉพาะทาง เช่น โรงงานผลิตยางรถยนต์ที่ต้องใช้น้ำยางดิบจากสวนยางที่ประสบภัยธรรมชาติ หรือโรงงานผลิตเยื่อกระดาษที่ต้องพึ่งพาสารเคมีเฉพาะจากผู้ผลิตเพียงไม่กี่ราย หากซัพพลายเออร์รายใดรายหนึ่งประสบปัญหา ธุรกิจอาจหยุดชะงักได้ทันที ถึงแม้ว่าในโรงงานจะไม่มีอะไรเสียหายเลยก็ตาม

กรณีศึกษา: บทเรียนจากความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน

โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ มีการลงทุนในเครื่องจักรและระบบป้องกันอัคคีภัยอย่างดีเยี่ยม และมีประกันภัยทรัพย์สินพร้อมกับประกัน BI ครอบคลุมความเสียหายภายในโรงงานครบถ้วน

อยู่มาวันหนึ่ง โรงงานปิโตรเคมีซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบตั้งต้นรายใหญ่ที่สุดและแทบจะเป็นรายเดียวที่โรงงานพลาสติกแห่งนี้พึ่งพา เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคอย่างรุนแรงจนต้องหยุดการผลิตไปหลายเดือน เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่โรงงานพลาสติกโดยตรง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ โรงงานไม่สามารถหาวัตถุดิบมาผลิตเม็ดพลาสติกได้เพียงพอ ทำให้สายการผลิตต้องหยุดชะงักลงเกือบทั้งหมด รายได้หดหาย และยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร

ในกรณีนี้ ถ้าโรงงานมีเพียงประกัน BI ธรรมดา ประกันจะไม่สามารถชดเชยความเสียหายได้เลย เพราะความเสียหายไม่ได้เกิดกับทรัพย์สินของโรงงานเอง แต่หากโบรคเกอร์ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานของโรงงานตั้งแต่ต้น และได้แนะนำให้ทำประกัน CBI ไว้ด้วย ความสูญเสียจากเหตุการณ์นี้ก็จะได้รับการชดเชย ช่วยประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้

ดังนั้น การที่โบรคเกอร์สามารถอธิบายความแตกต่างระหว่าง BI และ CBI ได้อย่างถ่องแท้ ไม่ใช่เพียงแค่การท่องจำคำศัพท์ประกันภัย แต่คือการที่พวกเขามองเห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างแท้จริง และสามารถประเมินความเสี่ยงที่อาจไม่ชัดเจนในตอนแรกได้ นี่คือหัวใจสำคัญของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ผู้ขายกรมธรรม์ แต่เป็นการนำเสนอโซลูชันที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ท่ามกลางความไม่แน่นอน

สุดท้ายนี้ การเลือกโบรคเกอร์ประกันภัยที่เข้าใจในรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจจะได้รับการปกป้องอย่างครอบคลุมจากความเสี่ยงที่ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น ไม่ใช่แค่จากเหตุการณ์ภายในรั้วโรงงาน แต่รวมถึงความเสี่ยงที่แฝงตัวอยู่ในห่วงโซ่อุปทานด้วย

สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารที่ต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงและการประกันภัยที่เหมาะสมกับธุรกิจโดยเฉพาะ สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง เพียงเพิ่มเพื่อนทาง LINE: @siamadvicefirm

Leave a Comment